ในสภาวะเศรษฐกิจที่กำลังจะถดถอยและผันผวนสูงเช่นนี้ นักลงทุนทั้งมืออาชีพและมือใหม่ทั้งหลายต่างรอจังหวะในการลงทุน ไม่รู้จะลุยกันทางไหนดี แต่ต้องบอกว่ายังมีทางเลือกที่เป็นทางสายกลางสำหรับนักลงทุน ให้ได้ลงทุนกันเช่นกัน ทางเลือกนั้นก็คือกองทุนรวม ประเภทกองทุนผสม หรือ (Allocation Fund) นั่นเอง
กองทุนผสมถือเป็นทางเลือกที่ตอบโจทย์ได้เป็นอย่างดีสำหรับนักลงทุนที่ต้องการลงทุนในช่วงที่เศรษฐกิจผันผวน ดังเช่นในช่วงเวลานี้ เพราะกองทุนผสมถูกออกแบบมาให้ลงทุนได้ในทุกภาวะของตลาด มีการจัดสรรการลงทุนมาให้แล้ว เพื่อให้พอร์ตมีระดับความเสี่ยงตั้งแต่ต่ำไปจนถึงสูง เพื่อเป็นการช่วยให้นักลงทุนไม่ต้องมานั่งปวดหัวในการกระจายเงินไปในสินทรัพย์ต่าง ๆ ด้วยตนเอง
จากการสำรวจผลงานของกองทุนในกลุ่มประเภทกองทุนผสมในระยะ 10 ปี ย้อนหลังพบว่าให้ผลตอบแทนเฉลี่ยตั้งแต่ 1.71 – 3.66 เปอร์เซ็นต์ต่อปี ซึ่งอาจจะไม่สูงมากนัก แต่ก็ยังสูงกว่าดอกเบี้ยเงินฝากและกองทุนประเภทตราสารหนี้ต่าง ๆ รวมทั้งไม่ต้องรับความเสี่ยงสูงเท่ากับกองทุนหุ้นหรือการลงทุนในประเภทความเสี่ยงสูงอื่น ๆ ทำให้กองทุนผสมน่าจะเป็นทางเลือกที่ดีเลยทีเดียวสำหรับนักลงทุนในช่วงที่สภาวะเศรษฐกิจกำลังผันผวนเช่นนี้
สารบัญ
กองทุนผสมคืออะไร
ลำดับแรกต้องเท้าความถึงกองทุนรวมก่อน “กองทุนรวม” (Mutual Fund) ก็คือ การระดมเงินทุนจากนักลงทุนหลายรายมารวมกันให้เป็นเงินลงทุนก้อนใหญ่ โดยมีบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน เป็นผู้ทำหน้าที่ระดมเงินทุนและนำกองทุนไปจดทะเบียน เป็นนิติบุคคล และนำเงินกองทุนนั้นไปลงทุนตามนโยบายตามที่ระบุไว้ ไม่ว่าจะเป็นกองทุนตลาดเงิน กองทุนตราสารหนี้ กองทุนตราสารทุน เป็นต้น ส่วน “กองทุนผสม” (Mixed Fund) ก็จัดเป็นหนึ่งในกองทุนรวม โดยชื่อก็บอกอยู่แล้วว่ากองทุนผสมนั่นก็หมายความว่า กองทุนนั้นมีนโยบายนำเงินไปลงทุนในสินทรัพย์หลาย ๆ ประเภท ทั้งตราสารหนี้และตราสารทุน เพื่อกระจายความเสี่ยงแต่ยังคงต้องการผลตอบแทนในระดับกลาง ๆ อยู่นั่นเอง
รู้จักกองทุนผสมให้ลึกกว่าเดิม
เมื่อรู้กันไปแล้วว่ากองทุนผสมคืออะไร ต่อไปลองมาทำความรู้จักกองทุนผสมให้มากกว่าเดิมกันต่อ โดยกองทุนผสมนั้นยังแบ่งออกเป็น 2 ประเภทด้วยกันคือ
1.) กองทุนรวมแบบผสมที่มีข้อกำหนดในการลงทุนในตราสารทุน (Balanced Fund) อธิบายง่าย ๆ ว่าเป็นกองทุนรวมที่มีนโยบายการลงทุนในตราสารทุนในขณะใดขณะหนึ่งไม่น้อยกว่าร้อยละ 35 แต่ต้องไม่เกินกว่าร้อยละ 65 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนรวมนั้น
2.) กองทุนรวมแบบผสมยืดหยุ่น (Flexible Fund) คือ กองทุนรวมที่มีนโยบายการลงทุนขึ้นอยู่กับดุลพินิจในการตัดสินใจลงทุนของผู้จัดการกองทุนตามความเหมาะสมของสภาวะตลาดในแต่ละช่วงเวลา
ข้อดีของการลงทุนในกองทุนผสม
เมื่อรู้จักและเข้าใจในความหมายของกองทุนผสมกันแล้ว ทีนี้มาลองศึกษาข้อดีของการลงทุนในกองทุนผสมกันบ้าง โดยข้อดีที่เห็นได้ชัดของกองทุนผสมก็คือการที่กองทุนมีนโยบายลงทุนทั้งในตราสารหุ้นซึ่งถือว่ามีโอกาสได้รับผลตอบแทนในอัตราที่สูง แต่ก็พ่วงมากับความเสี่ยงที่สูงตามมาเช่นกัน แต่นโยบายของกองทุนผสมก็จะมีเงินลงทุนส่วนหนึ่งที่จัดสรรไปลงทุนใน ตราสารหนี้ที่มีความเสี่ยงต่ำ แต่เน้นผลตอบแทนแบบแน่นอนถึงแม้จะไม่สูงก็ตาม ทำให้ผลลัพธ์ที่ได้ของกองทุนผสมก็จะอยู่ในระดับกลาง ๆ ไม่โดดเด่นมาก แต่ก็ไม่เสี่ยงมากเช่นกัน นอกจากนั้นแล้วกองทุนผสมยังมีการปรับสมดุลพอร์ต (Rebalancing) เพื่อรักษาสัดส่วนการลงทุนให้ผู้ลงทุนโดยอัตโนมัติเป็นระยะๆ ทั้งนี้เพื่อรักษาวินัยการลงทุน โดยจะมีการขายหุ้นออกบ้างหลังจากภาวะตลาดขาขึ้น และมีการซื้อหุ้นเพิ่มบ้างในภาวะตลาดขาลง และบางกองทุนยังมีการ ปรับพอร์ตเพื่อลดความเสี่ยงหรือเพิ่มผลตอบแทนในระยะสั้น (Tactical Asset Allocation) ให้ด้วย เรียกได้ว่าเป็นกองทุนที่พร้อมปรับเปลี่ยนการลงทุนให้เหมาะสมกับทุกสถานการณ์อย่างมีกลยุทธ์เลยก็ว่าได้
ข้อเสียของกองทุนผสม
แน่นอนว่าในโลกนี้ไม่มีอะไรดีไปหมด 100% แน่นอน เช่นเดียวกันกับกองทุนผสมนั่นล่ะ เพราะถ้าเราวิเคราะห์ดี ๆ ก็จะพบว่าข้อเสียซึ่งก็อาจจะไม่ได้เสียจนน่าเกลียดของกองทุนผสมนั่นก็คือ อย่างแรกคือผู้ลงทุนเลือกสัดส่วนการลงทุนเองไม่ได้ ต้องเลือกตามนโยบายการลงทุนของแต่ละกอง ซึ่งแต่ละ บลจ. อาจมีให้เลือกไม่เกิน 2-3 แบบ และประเด็นต่อมาก็คือกองทุนผสมมักจะไม่ค่อยมีสัดส่วนการลงทุนเขียนไว้ชัดเจนใน Factsheet หรือหนังสือชี้ชวน ทำให้จำเป็นต้องสอบถามกับ บลจ. หรือผู้ขายเพิ่มเติม ซึ่งฟังดูแล้วอาจจะไม่ค่อยสะดวกซักเท่าไหร่สำหรับผู้ลงทุนที่ไม่ใช่มือฉมัง และสุดท้ายบางคนอาจจะคิดว่าจริง ๆ แล้ว เราสามารถจัดพอร์ตของตัวเองให้เป็นแบบกองทุนผสมก็ได้ โดยการกระจายลงทุนในกองทุนประเภทต่าง ๆ ได้ด้วยตนเอง และอาจจะยังสามารถเลือกกองทุนหลาย ๆประเภทจากหลาย ๆ ค่ายบลจ .ได้อีกด้วย โดยอาจจะดีกว่าลงทุนในกองทุนผสมด้วยซ้ำไป
กองทุนผสมเหมาะกับใคร
รู้จักกองทุนผสมไปพอสมควรแล้ว หลายคนคงนึกต่อว่าแล้วใครบ้างที่เหมาะจะลงทุนในกองทุนผสม หรือกองทุนผสมเหมาะสมกับใคร บอกง่าย ๆ เลยว่า การลงทุนทุกประเภทมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน เพราะฉะนั้นผู้ที่เหมาะกับกองทุนผสมก็คือผู้ที่สามารถยอมรับความเสี่ยงและผลตอบแทนในระดับของกองทุนผสมได้ โดยในโลกของการลงทุนนั้น กองทุนรวมต่าง ๆ จะถูกจัดลำดับความเสี่ยงของการลงทุน โดยแบ่งออกเป็น 8 ระดับความเสี่ยงตั้งแต่เสี่ยงต่ำมากถึงเสียงสูงมาก สำหรับกองทุนผสมนั้นจัดอยู่ในกองทุนที่มีความเสี่ยงระดับ 5 ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับกลางเพราะฉะนั้นถ้านักลงทุนท่านใดที่ทำแบบประเมินความเสี่ยงออกมาแล้วตกอยู่ในระดับ 5 คุณนั่นล่ะที่เหมาะกับกองทุนผสม
เลือกกองทุนผสม หรือ แยกซื้อทีละกอง ?
ตามที่ได้กล่าวไปในข้อเสียของกองทุนผสมคือมักมีคำถามจากนักลงทุนว่า จะเลือกลงทุนในกองทุนผสมดี หรือว่าเลือกลงทุนแบบแยกซื้อหลาย ๆ กองทุน หลาย ๆ ประเภทกองทุนดี ซึ่งคำตอบสุดท้ายต้องบอกว่า ก็แล้วแต่คุณ แต่ก็มีหนึ่งปัจจัยที่อาจทำให้คุณตัดสินใจได้ง่ายนั่นก็คือ หากคุณเลือกซื้อหลาย ๆ กองทุนหลาย ๆ ประเภท เพื่อกระจายความเสี่ยงนั่นหมายความว่าคุณต้องใช้เงินลงทุนในจำนวนที่มากพอสมควรจึงจะสามารถกระจายเงินลงทุนได้ครบ แต่ถ้าคุณลงทุนในกองทุนผสมกองเดียว คุณไม่จำเป็นต้องใช้เงินจำนวนมาก ก็จะสามารถกระจายความเสี่ยงได้ด้วยกองทุนผสมกองเดียวแล้ว ประเด็นนี้อาจจะทำให้ผู้ลงทุนที่มีทุนลงทุนไม่สูงตัดสินใจได้ง่าย แต่ถ้านักลงทุนท่านใดมีทุนลงทุนที่สูงสุดท้ายก็ต้องแล้วแต่ดุลยพินิจของนักลงทุนเอง
จะลงทุนกองทุนผสมได้ที่ไหน
สำหรับนักลงทุนมือใหม่ที่ยังไม่เคยลงทุนในกองทุนผสม สามารถเข้าไปศึกษาข้อมูลกองทุนต่าง ๆ ได้ตามเว็ปไซต์ของบลจ. ต่าง ๆ รวมทั้งเวปไซต์ของโบรกเกอร์กองทุนทั่วไปได้อย่างง่ายดาย หรือถ้าคิดอะไรไม่ออกก็แค่พิมพ์คำว่า “กองทุนผสม” ไปในเวปไซต์เสิร์ชเอนจิน แค่นี้รับรองมีข้อมูลมาให้ศึกษาเพียบ หรืออาจจะมีบางเวปไซต์ที่เป็นกลุ่มสนทนาแลกเปลี่ยนความรู้ทางด้านการลงทุนก็ดี เรียกได้ว่าช่วยสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ให้กับตัวเองได้เป็นอย่างดี ส่วนถ้าต้องการจะซื้อกองทุนผสมก็สามารถซื้อผ่านแอปพลิเคชั่นของธนาคารต่าง ๆ ที่คุณมีอยู่ได้เลย โดยก่อนจะทำการซื้อกองทุนแต่ละบลจ.จะมีการให้ผู้ลงทุนทำแบบประเมินความเสี่ยงก่อน ทำให้เราสามารถที่จะรู้ว่าเรารับความเสี่ยงในการลงทุนได้ในระดับไหนเพื่อให้สามารถเลือกลงทุนได้อย่างเหมาะสม ทั้งหมดที่ว่ามานี้ใช้เวลาแค่เพียงไม่นาน และผ่านมือถือสมาร์ทโฟนแค่เครื่องเดียว เรียกได้ว่าง่าย ๆ แค่ปลายนิ้วไปเลยจ้า
จากข้อมูลที่กล่าวมาทั้งหมดน่าจะทำให้ผู้อ่านเข้าใจและรู้จักกองทุนผสมมากพอสมควร และจะเห็นได้ว่ากองทุนผสมดูเหมือนจะเป็นกองทุนสายกลาง ที่พร้อมรับปรับเปลี่ยนกับทุกสถานการณ์ของโลก พร้อมลดความเสี่ยงในสถานการณ์เศรษฐกิจผันผวน พร้อมขยับเพื่ออัตราผลตอบแทนที่ดีกว่าในสถานการณ์ที่เศรษฐกิจเติบโต ซึ่งเหตุผลนี้อาจจะทำให้กองทุนผสมเข้าไปอยู่ในอ้อมอกอ้อมใจของนักลงทุนหลาย ๆ คน แต่สุดท้ายไม่ว่าจะกองทุนไหน ๆ ก็มีทั้งข้อดีและข้อเสีย อยู่ที่นักลงทุนจะศึกษาทำความเข้าใจความเสี่ยงและอัตราผลตอบแทน และเลือกหากองทุนที่ใช่ และเหมาะกับตัวคุณเพราะเงินลงทุนทุกบาททุกสตางค์เป็นของตัวคุณเอง จะให้ใครมากำหนดทิศทางเงินของคุณเองไม่ได้แน่นอน