อาวุธหนักต่อมาจาก ปืนพกของเกมวาโรแลน ก็จะมีปืนกลมือ ปืนลูกซอง และปืนไรเฟิล ซึ่งผู้เล่น valorant ต่างก็ใช้ในสถานการณ์ที่แตกต่างกัน แล้วแต่ว่าเล่นด่านอะไร หรือจำนวนเงินที่เหลือในตอนนั้น หากเป็น Round save (ประหยัดเงินเผื่อใช้ซื้อปืนที่ดีกว่าในตาถัดไป) ก็จะใช้ปืนที่ราคาไม่แพงมาก เช่น stinger หรือ spectre
เนื้อหาก่อนหน้านี้
อาวุธในเกม valorant : EP 1 ปืนพก
ปืนกลมือ
ปืนกลมือ.. เป็นปืนเล็กจับถนัดจำพวก smg ( submachine gun ) ซึ่งปืนประเภทนี้นิยมใช้กันอย่างมากในช่วงรอบประหยัด ( Echo Round ) และช่วงซื้อแบบครึ่ง ๆ กลาง ๆ ( Half buy ) อาจเป็นเพราะปืนกลมือนั้น ราคาค่อนข้างถูก ใช้งานง่าย และสามารถเบิสดาเมจได้อย่างรวดเร็วด้วยอัตราการยิงที่สูง มีความได้เปรียบมากในระยะกลาง และใกล้
1.Stinger

Stinger เป็นปืนที่มีอัตราการยิงที่สูงที่สุดในเกมส์แล้ว ในการยิงปกติจะเป็นแบบออโต้ หรือยิงรัว ๆ โดยจะได้เปรียบมากในระยะใกล้ แต่ในระยะกลางถึงไกลจะไม่ค่อยดีสักเท่าไร เนื่องจากปืนมีแรงดีดที่เยอะพอสมควรในตอนสเปรย์ จึงต้องใช้โหมดเสริมนั่นคือการใช้โหมดเล็งยิง ปืนจะยิงในรูปแบบ burst โดยจะยิงสี่นัดในหนึ่งครั้ง จะทำให้ยิงระยะกลางถึงไกลง่ายขึ้น ( แต่ไกลมาก ๆ ก็ไม่ไหวเบาเกิ้น~ )

2.Spectre

Spectre น่าจะเป็นปืนที่ใครหลาย ๆ คนชอบใช้ในช่วงเซฟเครดิตไว้เล่นรอบต่อไป อาจเป็นเพราะปืนกระบอกนี้ราคาไม่แพง และมีประสิทธิภาพดีมากในระยะกลาง และระยะใกล้ เนื่องจากปืนมีแรงดีดค่อนข้างต่ำควบคุมปืนได้ง่าย มีอัตราการยิงสูง และมีฟีเจอร์พิเศษที่ชื่อว่า “ห้ามส่งเสียง หรือSlienced” ที่มีคุณสมบัติเหมือนกับปืน Ghost และที่พิเศษไปกว่านั้น นั่นคือปืนกระบอกนี้สามารถวิ่งยิงได้ดีมาก โดยเป้าหมายไม่ไกลไปกว่า 10 เมตร

ลูกซอง
ปืนลูกซอง.. ในหลาย ๆ เกมส์ที่เป็นเกมส์แนว FPS ต้องบอกได้เลยว่าปืนลูกซองเป็นปืนที่น่าหวาดกลัวที่สุดแล้วในระยะเผาขน ซึ่งคุณเพียงแค่สบตา หรือยังไม่ทันรู้เรื่อง ก็กลายไปเป็นโค้ชคอยเฝ้าดูให้กับเพื่อนร่วมทีมไปซะแล้ว โดยในเกมส์วาโรแลนต์นั้นจะมีด้วยกัน 2 กระบอก ( ไม่รวม Shorty เนื่องจากตัวเกมส์กำหนดเป็นปืนพก ) นั่นคือ Bucky และJudge
1.Bucky

Bucky ปืนลูกซองยิงทีละนัด หรือ Pump shotgun ยิงปกติจะยิงกระสุนลูกปลาย 15 เม็ด โดยมีความแรงมาก ๆ ในระยะประชิดเน้นเซอไพรส์ศัตรูในมุมอับสายตา กระสุนกระจายตามระยะนั่นคือถ้ายิงในระยะไกลถึงยิงตรงเป้าก็อาจจะไม่โดนเลยก็ได้ แต่ปืนนี้ยังมีโหมดเสริมนั่นคือ จะยิงกระป๋องไประเบิดเป็นลูกปลายในระยะสั้น ๆ จำนวน 5 นัด โดยระยะที่หวังผลดีที่สุดคือ 7-9 เมตร สามารถยิงทำดาเมจได้ดีกว่ายิงปกติ ( Bucky ยังสามารถ ยิงที-กดรีโหลดที-ยิงที-กดรีโหลดที เพื่อลดอนิเมชั่น และเพิ่มความต่อเนื่องได้ )

2.Judge

Judege เป็นปืนลูกซองที่มีการยิงคล้าย ๆ Bucky นั่นคือใช้ยิงในระยะประชิด กระสุนกระจาย และหวังผลไม่ได้ในระยะไกล แต่มีความโหดดุดันกว่า ด้วยการที่ปืนสามารถ ยิงรัว ๆ แบบไม่ยั้งจึงทำให้สามารถสังหารศัตรูได้อย่างต่อเนื่อง ในบางสถานการณ์ เช่นมีช่องแคบ ๆ หรือศัตรูมาเป็นกลุ่ม คุณอาจใช้ปืนกระบอกนี้เก็บได้ทั้งตี้ก็เป็นได้

ปืนไรเฟิล
ปืนไรเฟิล.. ต้องบอกเลยว่าปืนประเภทนี้จะต้องเป็นปืนที่ฮิตที่สุดในทุก ๆเกมส์แนว FPS เลยก็ว่าได้ เนื่องจากเป็นปืนสายสมดุล ทั้งดาเมจ การควบคุม ความแม่นยำ และสามารถยิงได้ทั้งระยะใกล้ ถึงระยะไกลเลยทีเดียว ( ประโยชน์รอบด้านจริง ๆ ) สำหรับในเกมส์วาโรแลนต์ก็เช่นกัน และเป็นปืนที่นิยมใช้ในช่วงมีเครดิต หรือซื้อแบบจัดเต็ม ( Full buy ) หรือเรียกง่าย ๆ ว่าพร้อมสู้แบบสุด ๆ
1.Bulldog

Bulldog เป็นปืนไรเฟิลที่ยิงปกติเป็นแบบออโต้ และมีโหมดยิงพิเศษคือตอน Aim scope หรือซูมเล็งนั้นจะยิงเป็นโหมด Burst ที่ยิงกระสุนเป็นชุด 3 นัด คล้าย ๆ กับปืน Stinger และปืน Bulldog สามารถทำดาเมจทุกระยะในความเสียหายเท่าเดิมโดยไม่ลดดาเมจสักกะติ้ดเดียว ( คุณสามารถใช้การ Aim scope ยิงหัวในระยะไกล ได้ถึง 2-3 นัด ภายในการยิงแค่คลิกเดียว )

2.Guardian

Guardian เป็นปืนไรเฟิล DMR สไตล์เคาะยิง ไม่สามารถยิงรัว ๆ ได้ อาจทำให้การสังหารศัตรูในระยะใกล้ยากขึ้น แต่ในระยะกลาง และระยะไกลต้องบอกเลยว่าเป็นปืนที่โหดมาก เพราะเป็นปืนที่มีดาเมจ และความแม่นยำสูงมาก โดยที่ Aim scope แล้วค่อย ๆ เคาะยิงนี่เป็นอะไรที่โหดสะบัดมากสำหรับปืนกระบอกนี้

3.Phantom

Phantom ปืนไรเฟิลเก็บเสียงสุดคูล เป็นปืนฮิตที่คนนิยมเล่นเป็นอย่างมาก ด้วยการที่ปืนมีคุณสมบัติที่ดีมาก ๆ โดยมีจุดเด่นหลัก ๆ เลยก็คือ อัตราการลั่นกระสุนที่สูง และยังคุมปืนได้ง่าย เนื่องจากกระสุนจะดีดขึ้นเป็นเส้นตรงเป๋นิด ๆจนถึงนัดที่ 3 และจะกระจายเบี้ยวไปทางซ้าย หรือทางขวาไปมา ๆ ในนัดที่ 4-5 เป็นต้นไป ( ดูรวม ๆ แล้วมีลักษณะเหมือนตัว T )โดยในระยะใกล้ ๆ จะสามารถสังหารศัตรูโดยยิงที่หัวภายนัดเดียว แต่ในระยะไกลดาเมจจะลดลง จึงทำให้การยิงในระยะไกลควรยิงเป็นชุดประมาณ 3-4 นัดต่อครั้งเพื่อที่จะควบคุมปืนได้ง่าย และแม่นยำขึ้น โดยปืน Phantom ยังมีฟีเจอเสริมติดมาด้วยนั่นคือ Silence หรือห้ามส่งเสียง มีเอฟเฟคเหมือนกับปืน Ghost และSpectre

4.Vandal

Vandal ปืนไรเฟิลสายดุดันที่มีรูปทรงคล้าย ๆ ปืน AK มาพร้อมกับความป่าเถื่อนสมชื่อ เพราะดาเมจที่ยิงหัวในทุกระยะภายในนัดเดียว โดยไม่สนใจว่าคุณจะสวมเกราะหนาแค่ไหน สำหรับปืน Vandal นั้นก็เป็นปืนที่นิยมใช้เป็นอย่างมากอีกหนึ่งกระบอก เนื่องจากคุณสมบัติที่กล่าวมา และยังมีรูปแบบการยิงแบบออโต้ โดยปืนจะดีดขึ้นเป็นแนวเส้นตรงจนถึงนัดที่ 3 แล้วอาจจะเบี้ยวไปทางซ้าย หรือทางขวาเหมือน Phantom แต่จะค่อนข้างดีดกว่า คนส่วนมากมักใช้ปืนนี้ยิงในระยะกลางถึงระยะไกล ( หรืออาจจะวัดกับพวกที่ใช้ปืนสไนเปอร์เลยก็ได้ ) โดยจะยิงแบบเป็นชุดทีละ 2-3 นัดเพื่อการคุมปืนที่ดี

**เกร็ดความรู้ที่ทุกคนอาจรู้ไปแล้ว**
* ปืนผี ( Phantom ) vs ปืนป่าเถื่อน ( Vandal ) *
สำหรับใครหลาย ๆ คนอาจสงสัยว่าปืนไหนดีกว่ากัน และมันดีกว่ากันยังไง เราจะมาแก้ข้อสงสัยนี้กันครับ อันนี้ตามประสบการณ์ที่เล่น การศึกษาหาความรู้ และการสอบถามต่าง ๆ นะครับ…
Phantom | Vandal |
---|---|
– มีอัตราการยิงที่เร็วกว่า ทำให้สามารถเก็บศัตรูในระยะใกล้ได้ง่ายกว่า – เก็บเสียง และศัตรูไม่เห็นวิถีกระสุนทำให้ศัตรูงง กว่าจะรู้ตัวก็โดนเก็บซะแล้ว – ปืนค่อนข้างดีดน้อยกว่าทำให้คุมปืนง่ายกว่า – เท่กว่า เพราะสกินแต่ละอันจะมีเอฟเฟคและรูปร่างที่สวยงามกว่า – กระสุนเยอะกว่า มี 30 นัดต่อแม็ก | – ยิงหัวนัดเดียวในทุกระยะ และไม่สนเกราะที่สวมใส่ – มีดาเมจต่อนัดค่อนข้างสูงกว่า – ไม่ลดดาเมจต่อระยะทาง – เดาทางกระสุนง่ายกว่าในตอนสเปรย์ เพราะกระสุนนำวิถีเห็นชัด |
สรุปก็คือ ปืน Phantom จะเก่งกว่าในระยะใกล้ และการยิงไม่ซับซ้อนเน้นสเปย์ทำให้เหมาะสำหรับมือใหม่หัดยิง แต่ต้องคอยคุมปืนให้ดี ในบางครั้งที่เจอศัตรูในระยะกลาง และอาจจะมียิงแบบเคาะ ๆ หรือแบบเป็นชุด ๆ ในระยะไกล ต่างจาก Vandal ที่ยิงได้ดีกว่า เนื่องจากดาเมจที่รุนแรง โดยเน้นเคาะยิง และยิงเป็นชุด แต่ต้องแลกมาด้วยการฝึกฝนให้ชำนาญเช่นกัน
สรุปในสรุป Phantom เร็วกว่า Vandal แรงกว่า แต่ทุกอย่างขึ้นอยู่กับประสบการณ์ และการฝึกฝน ( ปืนใช่สิ่งที่น่าหวาดกลัวไม่ จงหวาดกลัวผู้ที่ครอบครองมัน !! )
อาวุธในเกม valorant : EP 3 (ปืนกล, สไนเปอร์ไรเฟิล และ ปืนพิเศษ)